10 ประเภทของรถยนต์ ที่มีการจัดเป็น Segment และยังคงมีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
เคยสงสัยไหมครับว่ารถแต่ละคันที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ถูกแบ่งประเภทออกเป็นรถแบบไหนกันบ้าง เชื่อว่าหลายคนน่าจะแบ่งออกแค่ว่าคันนี้รถเก๋ง คันนี้รถกระบะ คันนี้รถตู้ แต่ในความจริงแล้วรถยนต์ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทมาก ซึ่ง Mottoraka ได้นำสาระเรื่องประเภทรถมาฝากทุกคน ดังนี้

1. รถอีโคคาร์ (ECO-Car)
สำหรับรถในกลุ่ม ECO-Car นั้นเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการใช้รถขนาดเล็กเพื่อใช้งานในเมืองเป็นหลัก กลุ่มนักศึกษา หรือกลุ่มวัยเพิ่งเริ่มต้นทำงาน โดยขายรถในราคาที่ไม่แพง เน้นการประหยัดน้ำมัน บำรุงรักษาง่าย อะไหล่ไม่แพง ราคาขายต่อไม่ตกมาก

2. รถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Compact Car)
รถยนต์รุ่นที่ถูกจัดเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือ Compact Car ในตลาดของเมืองไทยและทั่วโลก เป็นรุ่นที่ขายดีกว่ารถยนต์นั่งรุ่นอื่น ๆ ของยี่ห้อต้นสังกัด (ถ้าไม่นับรถตระกูล MPV, SUV, Pickup) ด้วยเพราะรถมีขนาดที่ไม่เล็กเกินไปสำหรับการเป็นรถครอบครัว และไม่ใหญ่เทอะทะเกินไปสำหรับการขับขี่ในเมือง หรือการขับขี่ในฐานะรถส่วนบุคคล อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ หรือตัวถังให้เป็นแนวสปอร์ต หรือไว้ลงแข่งขันในรายการต่างๆ ก็ได้ด้วย

3. รถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car)
รถยนต์นั่งขนาดกลาง มีขนาดภายในใหญ่พอที่จะรองรับผู้ใหญ่ 5 คน ได้โดยไม่เบียดเสียด มีเครื่องยนต์ที่สมรรถนะสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0-3.5 ลิตร เพื่อรองรับน้ำหนักตัวรถที่มากขึ้น สามารถใช้เป็นรถสำหรับครอบครัวได้ดี และมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป

4. รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ (Full-Size Car)
รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ หรือ Full-Size Car เป็นรถที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดารถเก๋งทั้งหมด (ร่วมกับ Full-Size Luxury Car) มีตัวถังภายในกว้างขวาง ตัวรถมีความยาว 4.9 – 5 เมตรขึ้นไป เครื่องยนต์มีตั้งแต่ 8-12 สูบ เน้นสมรรถนะ ความแรง และความหรูหรา สำหรับกลุ่มครอบครัวใหญ่ ผู้บริหาร ผู้จัดการ เจ้าของกิจการ

5. รถยนต์แบบ Hot Hatch
สำหรับรถในกลุ่มนี้หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จัก แต่ในประเทศแถบโซนยุโรป รถเหล่านี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากใครที่ชื่นชอบการแข่งรถ หรือดูรายการที่เกี่ยวกับแข่งรถ อาทิ รายการ WRC Rally ก็จะได้เห็นรถประเภทนี้ในการแข่งขันกันบ่อยๆ เกือบทั้งหมดเป็นรถสไตล์แฮตช์แบ็กท้ายตัด มีเครื่องยนต์ทรงพลัง สร้างมาบนพื้นฐานของรถแบบ Sub-Compact หรือรถแบบ Compact ที่เน้นพลัง และการขับขี่ที่สนุกสนาน เน้นการใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันก็ได้ วันหยุดก็ดี แต่ราคาค่าตัวรถที่ค่อนข้างจะแพง เนื่องจากการแต่งชุดสปอร์ตทั้งคัน

6. รถยนต์สปอร์ตซีดาน สปอร์ตคูเป้ และซูเปอร์คาร์
รถยนต์นั่งสมรรถนะสูง หรือรถสปอร์ต โดยทั่วไปจะมีลักษณะเดียวกับรถยนต์นั่งทั่วไป ยกเว้นรูปทรงและสไตล์การดีไซน์รูปแบบสปอร์ต เสริมชุดแต่งรอบคัน ตัวถังมีขนาดน้ำหนักเบา เพื่อลดน้ำหนักรถยนต์ เพื่อให้รถยนต์สามารถมีอัตราเร่งได้สูง และวิ่งได้ในอัตราเร็วสูงกว่ารถยนต์นั่งทั่วไปเกือบสองเท่า รถยนต์นั่งสมรรถนะสูงที่มีชื่อเสียงมีมากมาย และบางคันอาจจะเป็นรถรุ่นที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัด และมีเพียงไม่กี่คัน เป็นของเล่นของสะสมสำหรับเหล่าเศรษฐี

7. รถยนต์อเนกประสงค์ (MPV)
รถประเภทนี้ได้ถือกำเนิดมาในช่วงประมาณกลาง ๆ ยุค 80 ที่นำเอารถตู้มาพัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์นั่ง จนออกมาเป็นรถ MPV เพื่อการใช้งานที่ลงตัว เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของรถประเภทนี้นั้นขับเคลื่อนล้อหน้า เบาะนั่งอาจจะมี 2-3 แถวเพื่อรองรับการโดยสารตั้งแต่ 5-8 ที่นั่ง เน้นการใช้งานที่อเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือการเดินทางเป็นหมู่คณะ

8. รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูง (SUV)
รถยนต์เอนกประสงค์สมรรถนะสูง หรือ SUV (ย่อมาจาก Sport Utility Vehicle : Sport = สมรรถนะสูง (แบบรถสปอร์ต), Utility = สารประโยชน์, Vehicle = พาหนะ) เป็นคล้าย ๆ กับรถ MPV แต่ SUV จะมีสมรรถนะสูงกว่า สามารถใช้ไต่เขาชัน และวิ่งทางวิบากได้ดีกว่า

9. รถกระบะ (Pick-Up)
รถกระบะเป็นรถที่มียอดขายดีตลอดการในเมืองไทย โดยรถกระบะเองก็แบ่งออกเป็น 4 ประเภทย่อย ๆ คือ รถกระบะขนาดเล็ก รถกระบะขนาดกลาง รถกระบะขนาดใหญ่ และรถกระบะแวน ที่นำมาดัดแปลงด้านหลังให้เป็นพื้นที่เหมือนกับรถสเตชั่นแวกอน แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักเหมือนแต่ก่อน

10. รถตู้ (Van)
สำหรับรถตู้ สามารถแบ่งประเภทของรถออกเป็นกลุ่มรถตู้ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ยังมีแบบหรูหราให้เลือกอีกด้วย ซึ่งในไทยก็มีหลากหลายแบรนด์และหลายรุ่นด้วยกัน