MG HS PHEV เอสยูวีสำหรับครอบครัว ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดทรงพลัง ประหยัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา วงการรถยนต์ไฮบริดเป็นที่นิยมชมชอบสำหรับคนไทยเป็นอย่างมากถึงแม้ก่อนหน้านี้จะดูเป็นรถยนต์ที่เข้าถึงยากด้วยราคา หรือไม่เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยก็ตาม แต่ด้วยความน่าสนใจของเทคโนโลยีจึงทำให้คนส่วนใหญ่อยากหันมาใช้รถยนต์ไฮบริดมากขึ้น ข้อดีหลัก ๆ ที่เรารู้กันของรถยนต์ไฮบริดก็คือเรื่องของความประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฮบบริดที่เราอยากนำเสนอในวันนี้คือรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดบน MG HS PHEV ทางเลือกใหม่สำหรับครอบครัว
ขุมพลัง PHEV

อย่างที่เราทราบกันดีว่ารถยนต์ไฮบริดคือการผสมผสานกำลังกันระหว่างเครื่องยนต์แบบปกติเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งใน MG HS PHEV โดยพลังงานไฟฟ้าจะเป็นพลังงานสะอาดช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังลดการใช้น้ำมันอีกด้วย ใช้แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม-ไอออน ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motorความจุแบตเตอรี่ 16.6 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงหากใช้ EV Mode ในการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งจะสามารถวิ่งได้ถึง 67 กิโลเมตรเลยทีเดียวด้วยพลังความเร็ว 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะอยู่ที่ 7.4 วินาทีนับว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 36 กรัมต่อกิโลเมตร ด้วยความเป็นปลั๊กอินไฮบริดนวัตกรรมใหม่ทาง MG CAR ได้ให้ข้อมูลมาแล้วว่าสามารถประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารถยนต์ไฮบริดแบบธรรมดาได้ถึง 9,000 บาท น่าสนใจขึ้นมาทีเดียวเลยใช่ไหมละ อีกทั้งตัวแบตเตอรี่ยังมีขนาดใหญ่วิ่งไกลไปถึงที่หมายได้ตามต้องการ แบตเตอรี่ของ MG HS PHEV มีความพิเศษตรงที่มีระบบระบายความร้อนด้วย Coolant ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และมีประสิทธิภาพในเรื่องของการช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานอย่างเหมาะสม สามารถชาร์จกับไฟบ้านได้เลยซึ่งสะดวกสบายมากเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น หรือสามารถชาร์จตามสถานีบริการต่างๆได้อีกด้วยซึ่งในอนาคตอาจจะมีความครอบคลุมมากกว่าปัจจุบันแน่นอน
สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง



MG HS PHEV มีระบบเทคโนโลยีการขับเคลื่อนเช่นเดียวกันกับรถยนต์พลังสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีอย่าง HAIRPIN DESIGN ที่ทำให้การผสานกำลังกันระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC 4สูบ 16วาล์ว Turbo TGI มากับความเร็ว 162 แรงม้ากำลังสูงสุด 119 ที่ 5500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,700 – 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบอัตโนมัติ 10 สปีด EDU II โดยการเปลี่ยนเกียร์ทำได้แค่เพียง 0.2 วินาทีเอง ให้ระบบช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังสุดกำยำแบบอิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกหน้าหลังเป็นดิสก์เบรกเช่นเดียวกัน เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้นจึงมีปุ่มสำหรับคุมน้ำหนักพวงมาลัยมาให้ด้วย
รูปลักษณ์กับความลงตัว


ว่าด้วยเรื่องของโมเดล MG HS PHEV เป็นรถยนต์ที่มาในรูปแบบของรถ SUV หรือรถยนต์อเนกประสงค์ที่หลายคนมองว่าเหมาะสมที่จะเป็นรถยนต์ครอบครัว เพราะด้วยขนาดความกว้างขวางที่มีมากกว่ารถยนต์ซีดาน และประโยชน์ด้านพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า
ดีไซน์ภายนอกสุดน่าหลงใหล



มองโดยผิวเผินอาจจะรู้สึกว่าไม่ต่างกับ MG HS หรือ MG ZS EV สักเท่าไหร่ แบบนี้ให้มองว่าเป็นพี่น้องกันน่าจะดีกว่า คือการมีลักษณะที่คล้ายกันแต่เอกลักษณ์แตกต่างกัน โดย MG HS PHEV จะเป็นรถยนต์ที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งพร้อมลุยที่ผสมผสานกับความหรูหราให้เข้ากันอย่างลงตัว มาเริ่มที่ไฟหน้าแบบโปรเจคเตตร์ LED ที่มีแผงไฟแนวยาวด้านบนและหลอดไฟกลมโตด้านล่างมีความเป็นประกายคล้ายเพชร ไฟหน้ามีขนาดใหญ่ และให้แสงสว่างสูงสามารถควบคุมการปิดเปิดแบบอัตโนมัติได้ ถัดมาด้านล่างจะเป็นไฟตัดหมอกที่มีขนาดใหญ่สมกับเป็นรถยนต์ SUV โดยมีกรอบล้อมรอบแสดงถึงความทรงพลัง ไฟเลี้ยวด้านหน้า และหลังแบบ Sequential ต่อด้วยกระจังหน้ารังผึ้งดีไซน์ใหม่สวยงาม มีราวหลังคาที่มีความทนทาน มากับหลังคาพาโนรามาซันรูฟที่จะทำให้ตลอดเส้นทางในการเดินทางของครอบครัวเต็มไปด้วยบรรยากาศดี ๆ มาถึงด้านหลังรถก็ยังไม่มีอะไรที่แตกต่างจากสองรุ่นที่กล่าวไปมากนักนั่นก็คือไฟท้ายแบบ LED ที่เชื่อมต่อกับประตูด้านหลัง และมีไฟเบรกดวงที่สาม กันชนหลังดูมีความหนักแน่นเสริมมิติให้กับตัวรถ ท่อคู่แบบสปอร์ต ฝาท้ายเปิดง่ายด้วยระบบไฟฟ้า
มิติโดยรวมของตัวรถยนต์

ความกว้าง 1,876 มิลลิเมตร
ความยาว 4,574 มิลลิเมตร
ความสูง 1,664 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มิลลิเมตร
น้ำหนักรถยนต์ 1,775 กิโลกรัม
ดีไซน์ภายในที่น่าหลงรัก






ต้องยอมรับเลยว่า MG HS PHEV สร้างความประทับใจเรื่องดีไซน์ภายในให้ตั้งแต่แรกเห็นเลยจริง ๆ เพราะข้างในมีความหรูหราเทียบท่ากับแบรนด์ที่มีราคาสูงมาก ๆ เลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นการทำการบ้านมาอย่างดีของ MG โดยความรู้สึกแรกที่ได้เห็นเบาะนั่งคู่หน้าทันสมัยดีไซน์ SPORT BUCKET SEAT ที่สามารถปรับเลือกสีให้เป็นแบบ 2 Tone flash ได้ ขนาดที่ใหญ่สะใจเหมาะกับสรีระของคนไทยอยู่พอสมควร โดยสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยสีที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั้นก็คือสี MONACO BLUE ที่เป็นสีนำเงินครามตัดกับสีขาวนวล ประณีตสุด ๆ ไปกับวัสดุที่ทำเบาะแบบ SOFT TOUCH ที่ได้แรงบันดาลใจจากความสวยงามของธรรมชาติ มาต่อกันที่ดีไซน์คอนโซลหน้าที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ปุ่มกดใช้งานต่างๆ มีการออกแบบจัดวางอย่างเป็นสัดส่วนไม่ดูเยอะจนรกเกินไป โดยรวมส่วนใหญ่มีความพรีเมี่ยม ช่องแอร์ตรงกลางเป็นแนวยาว แต่ในส่วนของช่องแอร์ด้านข้างจะเป็นทรงกลมคล้ายท่อไอเสียของยานบิน ส่วนของพวงมาลัยหนังท้ายตับจับถนัดมือปรับได้ 4 ทิศทาง ระดับความหรูหราไปอีกขั้นด้วยจอแสดงผลการขับขี่แบบอัจฉริยะ FULL VIRTUAL DASHBOARD ขนาด 12 นิ้วที่ดูง่ายและมีกลิ่นไอความสปอร์ตที่น่าหลงไหล
ภายในห้องโดยสาร




MG HS PHEV เป็นรถยนต์ที่ภายในมีขนาดกว้างขวางมากสามารถนั่งได้ถึง 5 ที่นั่ง ซึ่งสะดวกสบายทุกที่นั่งเลยก็ว่าได้ เว้นเพียงแต่ตรงกลางข้างหลังที่จะมีพื้นที่แคบกว่าเบาะอื่น เพิ่มความพิเศษด้วย NVH LUXURY SILENCE SPACE และมีฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสารเพื่อลดเสียงรบกวนในขณะขับขี่อีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาภายในห้องโดยสารอย่างแน่นอน
ระบบความบันเทิงที่ดี


เมื่อพูดถึงระบบความบันเทิงสิ่งแรกที่มองเห็นก็คือหน้าจอขนาดใหญ่ 10 นิ้วระบบสัมผัสที่มาพร้อมกับระบบเสียงอย่าง BOSE Sound จำนวน 8 ตำแหน่ง แบรนด์ดังในตำนานที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีคุณภาพของลำโพง เชื่อเถอะว่าการฟังเพลงตลอดการเดินทางของคุณจะเต็มไปด้วยความสุขที่แท้จริง
ความปลอดภัยอย่างคุ้มค่า



MG HS PHEV จัดระบบความปลอดภัยให้เต็ม ๆ แบบถึงใจดังนี้
- ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
- ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อเบรคฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
- ระบบควบควมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam Control)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัต
- เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
- ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
เทคโนโลยี i-Smart ที่น่าสนใจ

ซึ่งระบบที่ให้มาช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายมากขึ้นด้วย MG Call Centre ที่เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัว สามารถตรวจสอบการทำงานของแบตเตอรี่ โดยสามารถค้นหาสถานีชาร์จให้ด้วย สำหรับใครที่ขี้ลืมก็ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะในคันนี้มี Find my car โดยสามารถสั่งการด้วยระบบเสียงภาษาไทยได้เลย ผู้ขับขี่สามารถสั่งการการทำงานของระบบปรับอากาศในรถผ่านโทรศัพท์มือถือได้ด้วย อีกทั้งการไปเที่ยวจะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะมีระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan มาให้ รวมไปถึงความสะดวกสบายอื่นๆ เช่น ระบบช่วยค้นหาร้านอาหารและที่พัก , ข้อมูลพยากรณ์อากาศ , หรือการรายงานการจราจรอย่างทันท่วงที
ราคาค่าตัว
MG HS PHEV มากับราคาเบา ๆ 1,359,000 บาทที่เมื่อเทียบกับ option ที่ได้ก็ถือว่าราคาไม่แพงจนเกินไป
สีสันที่แสนจะดึงดูด
MG HS PHEV มีให้เลือกทั้งหมดสามสีด้วยกันนั่นก็คือ

สีขาว Arctic White

สีแดง Scarlet Red

สีดำ Black Knight
ประสบการณ์การขับขี่ของผู้ชาย
ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่ใช้งานรถยนต์ในเมืองซะมากกว่า แน่นอนว่าขึ้นชื่อเรื่องรถติดแน่นอน เป็นรถยนต์ที่ช่วงล่างแน่นออกไปทางแข็งนิดนึง แต่แทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลยด้วยซ้ำ ทัศนวิสัยในการมองเห็นโปร่งโล่งเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน ปกติจะใช้หมดของเครื่องยนต์ผสมกับไฟฟ้าโดยส่วนใหญ่อัตราการกินน้ำมันไม่เปลืองมากแม้รถจะติดก็ตาม สิ่งที่ชอบมากก็คือหน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาดใหญ่ ขับไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่าขับสนุกเหมือนกันมีความสปอร์ตในตัว ในบางทีที่เผื่อออกนอกเลนพวงมาลัยก็จะดึงกลับให้ทันทีอัตโนมัติ จังหวะเร่งแซงทำได้ดีพวงมาลัยแม่นยำแต่มีอาการโยนอยู่บ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประสบการณ์ด้านการขับขี่จากผู้หญิง
ชอบดีไซน์ภายในที่ดูหรูหรา เบาะออกแบบมาให้นั่งสบายมาก ๆ เทคโนโลยีการขับขี่ทำให้รู้สึกว่าการขับรถเป็นไปอย่างปลอดภัยมาก ๆ มีบางครั้งที่ทำนู้นทำนี่จนทำให้รถหลุดออกนอกเลนไปบ้างแต่พวงมาลัยก็จะดึงกลับให้ทันที แม้กระทั่งการการโค้งให้แบบอัตโนมัติอีกด้วย ถ้ามีรถตัดหน้าก็จะเบรกให้โดยอัตโนมัติ โดยส่วนมากจะใช้งานแบบ EV ล้วนชาร์จไฟบ้านปกติ รู้สึกว่าในการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งก็สามารถใช้งานได้ยาวนานพอสมควรประหยัดค่าน้ำมันได้เยอะเลยทีเดียว
หากเริ่มอยากมี MG HS PHEV สัดคันไว้ในครอบครองแล้วอย่าลืมไปลอง Test Drive ด้วยตัวเองก่อนซื้อนะครับ เพราะจะช่วยให้มั่นใจในการซื้อมากขึ้นเยอะเลย แถม MG ยังมีรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์นานกว่า 8 ปีหากเกิดปัญหาสามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนเฉพาะจุดได้ประหยัดเรื่องค่าบำรุงรักษาไปอีก ที่สำคัญยังสามารถกรองอากาศ PM 2.5 ภายในรถยนต์ได้อีกด้วย แต่ก่อนซื้อรถยนต์ทุกครั้งอย่าลืมเช็คราคารถยนต์ที่ Mottoraka
ที่มารูปภาพ : MG car
เข้าชม ตลาดรถ และโพสต์ขายรถของท่านได้ที่ ตลาดรถ รถมือสอง รถบ้าน
เช็คราคาซื้อ รถใหม่ รถมือสองได้ที่นี่ เช็คราคารถใหม่ รถมือสอง ฟรี!
เช็คราคาคงเหลือของรถของคุณได้ที่นี่ เช็คราคารถของคุณ ฟรี!
เข้าอ่านบทความรีวิวรถต่างๆ ได้ที่ รีวิวรถยนต์
เข้าอ่านบทความไลฟ์สไตล์ และ เกร็ดความรู้ ต่างๆ ได้ที่นี่ ไลฟ์สไตล์ /เรียนรู้เรื่องรถ
เข้าชมบทความอัพเดท ข่าวสารในวงการรถยนต์ ได้ที่นี่
สนใจเรื่องการประมูลรถ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มอตโต้ อ๊อคชั่น