การใช้ไฟหน้าและไฟท้ายรถยนต์ให้ปลอดภัย พร้อมการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
สำหรับการขับรถยนต์ในเวลากลางคืน ส่วนที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ที่จะต้องพร้อมทำงานเต็มที่ 100% นั่นก็คือไฟหน้าและไฟท้าย เพราะแสงไฟเป็นสิ่งสำคัญอย่างที่จะช่วยทำให้เรามองเห็นทัศนวิสัยบนท้องถนนในยามค่ำคืน
แต่การใช้ไฟหน้าและไฟท้ายก็ต้องปฏิบัติตามหลักเพื่อความปลอดภัยกับตัวเราและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ วันนี้ทาง Motto RAKA จะมาแนะนำการใช้ไฟหน้าและไฟท้ายรถยนต์ให้ปลอดภัยพร้อมการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีกัน
ไฟหน้ารถยนต์
ส่วนประกอบต่าง ๆ ของไฟหน้ารถยนต์ที่ควรทราบ ได้แก่
- ไฟสัญลักษณ์ด้านหน้า เป็นไฟที่บ่งบอกว่าเรานั้นได้ทำการเปิดระบบไฟฟ้าของรถยนต์แล้ว โดยจะมีลักษณะและเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปแล้วแต่รุ่นและแบรนด์ของรถยนต์
- ไฟหน้า เป็นไฟที่สำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นไฟที่ให้แสงสว่างหลักในการขับขี่รถยนต์ยามค่ำคืน เพราะฉะนั้นไฟหน้าจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา
- ไฟสูง จะใช้ในกรณีที่ขับขี่รถยนต์ตอนกลางคืนบนถนนโล่ง อย่างเช่น ในช่วงที่เข้าใกล้โค้ง จะเปิดไฟสูงเพื่อดูเลนวิ่งเข้าโค้งเพื่อให้สัมพันธ์กับความเร็ว หรือขณะที่มีรถเราเพียงคันเดียววิ่งอยู่บนถนนที่เปลี่ยวก็เปิดไฟสูงตลอดได้ และต้องลดไฟลงตามปกติเมื่อมีรถสวนมา เพราะการเปิดไฟสูงขณะที่มีรถสวนมา จะทำให้ผู้ที่ขับสวนมาถูกแสงไฟรบกวนหรือแยงตาจนไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ จนอาจเกิดอุบัติเหตุได้
- ไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉิน ไฟทั้งสองประเภทนี้จะอยู่ที่ตำแหน่งด้านหน้าของรถยนต์ จะเป็นหลอดไฟสีส้ม โดยไฟเลี้ยวมีไว้เพื่อเป็นสัญญาณแจ้งเตือนกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ว่าเราต้องการจะเปลี่ยนทิศทางของรถยนต์ไปในทางใด แต่สำหรับไฟฉุกเฉินนั้นจะเปิดใช้เฉพาะตอนที่รถเสียเพียงกรณีเดียวเท่านั้น
- ไฟหรี่และไฟต่ำ สำหรับไฟหรี่มีจุดประสงค์เพื่อที่จะทำให้ผู้ที่กำลังขับขี่รถคันอื่นมองเห็นรถของเราได้ชัดเจนขึ้นในขณะที่แสงบริเวณรอบ ๆ นั้นมีความสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งจะรวมไปถึงการเปิดไฟหรี่ขณะที่เรากำลังจอดรถอยู่ข้างทาง ส่วนไฟต่ำนั้นจะเปิดใช้ในกรณีที่ขับขี่รถยนต์ช่วงพลบค่ำหรือกลางคืน รวมทั้งการขับขี่ขณะที่มีฝนตกหรือหมอกลงแบบไม่เยอะมาก ก็สามารถใช้ไฟต่ำได้เช่นกัน
- ไฟตัดหมอก หากเราขับขี่รถยนต์ในบริเวณที่มีหมอกลงหนาจัดจนทำให้บดบังทัศนวิสัยข้างหน้าและมองไม่เห็นพื้นถนนแล้ว หรือขับขี่ช่วงที่ฝนกำลังตกอย่างหนัก การเปิดไฟตัดหมอกจะช่วยให้เรามองเห็นทางข้างหน้าระยะใกล้ได้ดียิ่งขึ้น
ไฟท้ายรถยนต์
ส่วนประกอบต่าง ๆ ของไฟท้ายรถยนต์ที่ควรทราบ ได้แก่
- ไฟสัญลักษณ์ด้านหลัง มีหน้าที่เช่นเดียวกันกับไฟสัญลักษณ์ด้านหน้า ซึ่งเป็นไฟที่บ่งบอกว่าเรานั้นได้ทำการเปิดระบบไฟฟ้าของรถยนต์แล้วนั่นเอง
- ไฟถอยหลัง จะใช้ในกรณีที่เราถอยหลัง โดยจะเป็นไฟสัญลักษณ์สีขาวแสดงขึ้นเมื่อเราทำการเข้าเกียร์ถอยหลังแล้ว ซึ่งในรถยนต์แต่ละรุ่นและแบรนด์อาจจะมีไฟท้ายที่แตกต่างกันออกไป
- ไฟเบรก ตามชื่อเลยสำหรับไฟสัญญาณนี้ที่จะแสดงขึ้นเมื่อเราแตะหรือเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วของรถ ตัวไฟเบรกที่ด้านท้ายรถนี้จะเป็นสีแดง แจ้งเตือนให้รถคันข้างหลังที่ขับตามมาได้ทราบว่าเรานั้นชะลอความเร็วหรือกำลังจะหยุดรถ
- ไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉิน ไฟทั้งสองประเภทนี้ที่อยู่บริเวณด้านท้ายของรถยนต์ก็มีหน้าที่เช่นเดียวกันกับไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉินที่อยู่บริเวณด้านหน้า
การดูแลรักษาไฟรถยนต์
สำหรับวิธีการดูแลรักษาไฟหน้าและไฟท้ายให้คงสภาพพร้อมใช้งานนั้น มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- หมั่นตรวจสอบระบบไฟหน้าและไฟท้ายเป็นประจำทุกปี เฉลี่ยปีละ 1 ครั้ง โดยทำการทดสอบระบบไฟที่สำคัญและจำเป็น
- หากจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟ ควรทำการเปลี่ยนเป็นคู่เพื่อให้ความสว่างของทั้งสองข้างเท่ากันอยู่เสมอ
- เมื่อสังเกตเห็นแสงสว่างลดลงหรือมีสีเหลืองที่บริเวณไฟหน้าและไฟท้าย ให้ทำความสะอาดโคมไฟรถได้ด้วยตนเอง โดยอาจจะใช้ยาสีฟันขัดทำความสะอาดก็ได้
- แนะนำการใช้หลอดไฟแบบ LED เพื่อความสว่างมากที่ขึ้นและให้แสงสว่างที่เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
- ควรศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของข้อกฎหมายจราจรที่เกี่ยวกับการใช้ไฟส่องสว่าง ตามพ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 กฎกระทรวงฉบับที่ 2